มาตรการตรวจค้นผู้โดยสาร-สัมภาระก่อนขึ้นเครื่องบิน

มาตรการตรวจค้นผู้โดยสาร - สัมภาระก่อนขึ้นเครื่องบิน

     ก่อนการเดินทางด้วยเครื่องบิน ท่าอากาศยานทุกแห่งจะมีคำแนะนำผู้โดยสารเกี่ยวกับมาตรการของเหลว และการตรวจค้นสัมภาระติดตัว เพื่อค้นหาอาวุธ วัตถุอันตราย หรือวัตถุต้องห้ามที่ผู้โดยสารนำติดตัวขึ้นเครื่องบิน ซึ่งอาจนำมาใช้ในการแทรกแซงโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ถูกนำขึ้นไปบนอากาศยาน ไม่ว่าจะเป็นการพกพาโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการซุกซ่อน หรือนำไปโดยวิธีอื่นใดก็ตาม เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยต่อกิจการการบิน เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

     โดยก่อนเข้ารับการเช็กอินที่เคาน์เตอร์ตรวจรับบัตรโดยสาร ผู้โดยสารต้องเตรียมพร้อมเพื่อผ่านจุดตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลอดภัย ดังนี้

1. นำของเหลว เจล และสเปรย์ หรือวัตถุ และสารอื่น ๆ ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกัน ที่บรรจุมาในภาชนะบรรจุขนาดเกินกว่า 100 มิลลิลิตร ใส่ในสัมภาระบรรทุก (Checked Baggage) เพื่อทำการเช็กอิน เนื่องจากไม่อนุญาตให้นำติดตัวขึ้นบนอากาศยาน

2. หากต้องการนำของเหลว เจล และสเปรย์ ติดตัวขึ้นบนอากาศยาน (Carry-on) ของเหลวฯ นั้นต้องมีขนาดบรรจุภัณฑ์ไม่เกิน 100 มิลลิลิตร นำใส่ไว้ในถุงพลาสติกใสแบบ Zip-lock ขนาด 20 x 20 ซม. (มีจัดเตรียมไว้ให้ที่โต๊ะบริการ บริเวณด้านหน้าเคาน์เตอร์เช็กอิน ผู้โดยสาร 1 คน ต่อถุง Zip-lock 1 ถุง โดยปริมาณของเหลวฯ เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 1 ลิตร และนำผ่านเครื่องเอกซเรย์ ซึ่งแยกจากสัมภาระติดตัวอื่น ๆ

3. บรรจุวัตถุแหลมคมทุกชนิดไว้ในสัมภาระที่ต้องการเช็กอิน เนื่องจากไม่อนุญาตให้นำติดตัวขึ้นบนอากาศยาน

4. ผู้โดยสารที่มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุน ต้องแจ้งต่อเจ้าหน้าที่สายการบิน ณ เคาน์เตอร์เช็กอิน เพื่อดำเนินการตรวจสอบเอกสาร และแยกเครื่องกระสุน ณ สถานที่ที่จัดเตรียมไว้ให้

5. ผู้โดยสารไม่ได้รับอนุญาตให้นำพาสาร วัตถุอันตราย และ/หรือสัตว์ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่ออากาศยานและบุคคลในอากาศยานทุกชนิดไปกับอากาศยาน ไม่ว่าจะบรรทุกไปกับสัมภาระที่เช็กอิน หรือนำติดตัวขึ้นอากาศยาน

ขั้นตอนการผ่านจุดตรวจค้น

1. ก่อนเข้าสู่จุดตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลอดภัย
เมื่อผ่านกระบวนการเช็กอิน และกระบวนการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง (ถ้ามี) แล้ว ผู้โดยสารจะเข้าสู่กระบวนการตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลอดภัยก่อนขึ้นเครื่องบิน โดยในขั้นตอนแรกขอให้ผู้โดยสารเตรียมบัตรระบุที่นั่ง (Boarding Pass) เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ

2. ณ จุดตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลอดภัย

2.1 เมื่อเข้าสู่ช่องทางเครื่องเอกซเรย์ จะมีถาดบรรจุกระเป๋า/สัมภาระจัดเตรียมไว้ให้ ขอให้ผู้โดยสารนำกระเป๋า/สัมภาระทุกชิ้นใส่ในถาดเพื่อผ่านเครื่องเอกซเรย์ หากผู้โดยสารมีคอมพิวเตอร์ชนิดพกพา (Laptop) เสื้อคลุม (Jacket) และถุง Zip-lock บรรจุของเหลว ให้แยกออกจากสัมภาระอื่นเพื่อใส่ถาด สำหรับสัมภาระติดตัวมีค่า ขอให้ผู้โดยสารใส่ในกระเป๋า/สัมภาระของตน และปิดให้เรียบร้อย ก่อนนำใส่ถาดผ่านเครื่องเอกซเรย์ 

2.2 ผู้โดยสารอาจถูกขอให้ถอดเข็มขัดและรองเท้าเพื่อนำผ่านเข้าเครื่องเอกซเรย์ 

2.3 ผู้โดยสารนำถาดผ่านเข้าเครื่องเอกซเรย์ 

2.4 ผู้โดยสารเดินผ่านเครื่องตรวจจับโลหะ (Walk Through Metal Detector) ตามการกำกับดูแลของเจ้าหน้าที่ สำหรับผู้โดยสารที่ไม่ประสงค์จะเดินผ่านเครื่องตรวจจับโลหะโดยมีเหตุผลอันเหมาะสม เช่น ผู้โดยสารใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) และผู้โดยสารที่กำลังตั้งครรภ์ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ด้านหน้าจุดตรวจค้น เพื่อผ่านเข้าช่องทางเฉพาะที่จัดไว้ และรับการตรวจค้นร่างกายด้วยมือ

2.5 ผู้โดยสารที่เดินผ่านเครื่องตรวจจับโลหะแล้ว ไม่เกิดสัญญาณเตือน (Alarm) ให้ไปรับกระเป๋า / สัมภาระของตนที่ผ่านเครื่องเอกซเรย์ 

2.6 ผู้โดยสารที่เดินผ่านเครื่องตรวจจับโลหะแล้วเกิดสัญญาณเตือน ผู้โดยสารต้องเดินกลับออกไป เพื่อสำรวจดูอีกครั้งว่า ยังมีสิ่งของที่เป็นโลหะหลงเหลืออยู่ตามร่างกายหรือไม่ หากพบว่ามี ให้นำสิ่งของออกจาก ร่างกาย และใส่ถาดที่จัดเตรียมไว้ผ่านเข้าเครื่องเอกซเรย์ และเดินผ่านเครื่องตรวจจับโลหะเป็นครั้งที่ 2

2.7 กรณีผู้โดยสารเดินผ่านเครื่องตรวจจับโลหะเป็นครั้งที่ 2 แล้วยังเกิดมีสัญญาณเตือน
เจ้าหน้าที่จะเชิญให้ผู้โดยสารไปรับการตรวจค้นร่างกาย เพื่อตรวจหาสาเหตุที่เครื่องตรวจจับโลหะส่งสัญญาณ

2.8 ระหว่างขั้นตอนการตรวจค้นร่างกาย ขอให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

2.9 เมื่อผ่านขั้นตอนการตรวจค้นร่างกายแล้ว ผู้โดยสารอาจถูกขอรับการเปิดตรวจกระเป๋า/สัมภาระ ที่นำติดตัวมา ขอให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

2.10 ผู้โดยสารที่ถูกตรวจสอบพบว่ามีวัตถุต้องห้ามนำขึ้นอากาศยาน บรรจุอยู่ในกระเป๋า/สัมภาระ ขอให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และปฏิบัติตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยาน

     2.11 ผู้โดยสารที่ไม่สะดวกจะรับการตรวจค้นร่างกาย และกระเป๋า/สัมภาระในที่สาธารณะ ทางท่าอากาศยานได้จัดเตรียมห้องตรวจค้นไว้ ขอให้ผู้โดยสารแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับการตรวจค้นเป็นการเฉพาะบุคคล

3. เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการตรวจค้น ขอให้ตรวจสอบสัมภาระที่นำติดตัวมาทุกชิ้นก่อนออกจากจุดตรวจค้น

4. ผู้โดยสารปฏิเสธการตรวจค้น ไม่ว่าจะเป็นการตรวจค้นกระเป๋า/สัมภาระ หรือการตรวจค้นร่างกาย และปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามมาตรการการรักษาความปลอดภัย ทางท่าอากาศยานขอสงวนสิทธิ์ไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารดังกล่าวผ่านจุดตรวจค้น

 

 


ความคิดเห็น

สงวนลิขสิทธิ์ 2022 โดย กรมประชาสัมพันธ์
สถิติการเข้าชม : 69,291,729