ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือนักท่องเที่ยว สิ่งหนึ่งที่จะเป็นต้องรู้ว่าในช่วงฤดูฝนของทุกปีประเทศไทยจะต้องเผชิญกับการระบาดของโรคไข้เลือดออก ดังนั้นในการใช้ชีวิตประจำวันหรือหากจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ใด จะต้องเตรียมตัวให้พร้อม
โรคไข้เลือดออก เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกิ ซึ่งมีอยู่ 4 สายพันธุ์ มียุงลายเป็นพาหะ ลักษณะของโรคที่สำคัญคือ มีไข้สูง มีอาการเลือดออก และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีก็อาจทำให้เกิดภาวะช็อก และเสียชีวิตได้
อาการของโรคไข้เลือดออกแบ่งได้เป็น 3 ระยะ จึงต้องสังเกตอาการให้ดีดังนี้
- ระยะแรก เป็นระยะที่ผู้ป่วยจะมีไข้สูงประมาณ 5 - 7 วัน โดยอาจจะมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีผื่นหรือจุดแดงตามร่างกาย แขน ขา บางรายอาจจะเบื่ออาหาร และมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย
- ระยะวิกฤต เป็นระยะที่ต้องระวังมากที่สุด ผู้ป่วยจะมีอาการเพลียและซึม ปัสสาวะออกน้อย มีอาการปวดท้อง โดยเฉพาะบริเวณชายโครงขวา รวมถึงมีเลือดออกผิดปกติ เช่น เลือดกำเดาไหล อาเจียนเป็นเลือด หรืออุจจาระเป็นสีดำ ในระยะนี้ไข้จะเริ่มลดลง มือ - เท้าเย็น ความดันโลหิตต่ำ และอาจทำให้เกิดอาการช็อกจนเสียชีวิตได้
- ระยะฟื้นตัว เป็นระยะที่คนไข้เริ่มมีอาการดีขึ้น ความดันโลหิตเริ่มกลับมาคงที่ ปัสสาวะออกมากขึ้น ความอยากอาหารมากขึ้น อาการปวดท้อง ท้องอืดลดลง และรู้สึกมีเรี่ยวแรงมากขึ้น โดยระยะเวลาทั้งหมดของไข้เลือดออกอยู่ที่ประมาณ 7 - 10 วัน
วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดก็คือ ไม่ให้ได้รับเชื้อไวรัสเดงกี หรือป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกยุงลายกัดนั่นเอง โดยสามารถทำได้ง่าย ๆ 3 ข้อ
- ป้องกันตัวเองสวมเสื้อผ้าที่มิดชิด นอนในห้องที่มีมุ้ง หรือมุ้งลวดเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัด ใช้ยาทากันยุงชนิดทาผิว
- กำจัดแหล่งพาหะ ภาชนะเก็บน้ำต้องมีฝาปิดเสมอ เปลี่ยนน้ำในแจกัน หรือกระถางทุก 7 วัน ฉีดพ่นสารเคมีหรือยากันยุงเพื่อกำจัดยุงลายเต็มวัย
- รับวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก แนะนำให้ฉีดในรายที่เคยเป็นไข้เลือดออกมาแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นซ้ำ ซึ่งจะลดความรุนแรงและได้ผลดีกว่า
ข้อมูล : กรมควบคุมโรค ที่อยู่ : 88/21 ถนน ติวานนนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัด นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-5903000