BCG Model เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวมที่ขับเคลื่อน 3 เศรษฐกิจไปพร้อม ๆ กัน ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพยากรชีวภาพ โดยเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจหมุนเวียนที่คำนึงถึงการใช้ทรัพยากรให้เกิดความคุ้มค่า และเศรษฐกิจสีเขียวที่คำนึงถึงความยั่งยืนของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม มีสาขาเป้าหมายสำคัญคือสาขาพลังงาน วัสดุ และเคมีชีวภาพ โดยประเทศไทยมีศักยภาพที่จะพัฒนาการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อนำไปสู่ความมั่นคงทางด้านพลังงานในทุกระดับ โดยเฉพาะ “อุตสาหกรรมพลังงานชีวภาพ”
ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการหาแหล่งพลังงานใหม่ให้เพียงพอต่อความต้องการในระยะยาว โดยเฉพาะพลังงานที่เกิดจากผลผลิตทางการเกษตร และของเสียในกระบวนการผลิตที่มีจำนวนมาก จึงเป็นที่มาของแผนพัฒนาพลังงานทดแทนระยะแรกที่ประสบความสำเร็จจนได้มีการปรับเป้าหมายแผนพลังงานทดแทน และพลังงานทางเลือก พ.ศ. 2558 - พ.ศ. 2579 โดยเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนเป็นร้อยละ 30 สำหรับเชื้อเพลิงชีวภาพมีเป้าหมายเพิ่มการใช้ไบโอดีเซล 3.6 เท่า เอทานอล 2.9 เท่า และก๊าซชีวภาพ 1.6 เท่า จากปี 2560 ผลจากแผนพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก ส่งผลให้ปี 2561 ไทยใช้พลังงานทดแทนไปทั้งสิ้น 18,448 พันตัน คิดเป็นร้อยละ 25.2 ของพลังงานขั้นสุดท้าย ลดการนำเข้าพลังงานมูลค่า 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 35.98 ล้านตัน (กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน, 2560) โดยเชื้อเพลิงชีวภาพที่มีการผลิต และใช้กันมากในประเทศไทยประกอบด้วย 3 ประเภท ได้แก่