6 เมกะเทรนด์ รับการเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจใน 3 ปีข้างหน้า

6 เมกะเทรนด์ รับการเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจใน 3 ปีข้างหน้า

           ภายใต้แนวคิด “Industry 4.0” ที่ภาครัฐเร่งขับเคลื่อนให้ภาคธุรกิจ ที่มุ่งปรับโครงสร้างการผลิตสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม เพื่อขับเคลื่อนด้วยองค์ความรู้และเทคโนโลยีขั้นสูง มีความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้า และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้พร้อมเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน

           เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เห็นทิศทางการพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค โดยเฉพาะในอีก 3 ปีข้างหน้า จะมี 6 เมกะเทรนด์ที่จะเข้ามามีบทบาทในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 แนวทาง 

           แนวทางแรก คือ 2 เทรนด์ต้องเร่งทำ ได้แก่ 

1) ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล (Digitalization) ทุกธุรกิจต้องปรับตัวให้ทันกับการค้าในรูปแบบออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มีการหมุนเวียนสินค้าเร็วขึ้น ตลาดสินค้าและบริการกลายเป็น "ตลาดของผู้บริโภค" ผู้ประกอบการจึงต้องปรับตัว นำสินค้าเข้าสู่หน้าร้านออนไลน์ให้ไว ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการความรวดเร็ว 

2) โลกาภิวัตน์ (Globalization) ที่เชื่อมโยงทุกสิ่งเข้าด้วยกัน เป็นโอกาสและความท้าทายที่ทุกธุรกิจต้องเผชิญ ผู้ประกอบการควรศึกษาการเข้าสู่ตลาดแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างประเทศเพื่อเพิ่มโอกาสเติบโต และขยายตลาดให้กว้างขึ้น พร้อมบริหารจัดการความเสี่ยง ควบคุมปัจจัยการผลิตอย่างระมัดระวัง

           แนวทางที่ 2 คือ 2 เทรนด์ต้องเร่งเสริม ได้แก่ 

1) ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี (New Technologies) ทั้งด้านเทคโนโลยีการส่งผ่านข้อมูลดิจิทัล และเทคโนโลยีการประหยัดพลังงานและสิ่งแวดล้อม ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้การทำธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งความรวดเร็ว แม่นยำ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการประหยัดงบประมาณได้มากขึ้น 

2) การผสานความร่วมมือทางธุรกิจ (Collaborative Business Models) เพื่อความยั่งยืนของธุรกิจ การร่วมมือ และช่วยเหลือพึ่งพากันเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยกระจายความเสี่ยงและผลกำไรของกิจการระหว่างกันเป็นกลุ่มก้อนซึ่งจะส่งผลดีต่อทุกภาคส่วน

           และแนวทางที่ 3 คือ 2 เทรนด์ต้องเร่งตระหนัก ได้แก่ 

1) สังคมผู้สูงวัย (Aging Societies) จากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ (UN) คาดการณ์ว่าปี 2593 ผู้สูงอายุทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวจากปัจจุบัน หรือมากกว่า 3,400 ล้านคน คิดเป็น 30% ของประชากรโลก ภาคธุรกิจจึงไม่ควรมองข้ามโอกาสทางการตลาดที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้สูงอายุ หรือสินค้าเพื่อผู้สูงอายุ 

2) บีซีจี โมเดล (BCG Economy) เป็นเทรนด์ธุรกิจใหม่ที่ผู้ประกอบการควรพัฒนาสินค้าและบริการ รวมทั้งวางเป้าหมายการทำธุรกิจให้เติบโตควบคู่ไปกับการปกป้องสิ่งแวดล้อม และลดปัญหาโลกร้อนไปพร้อมกัน ซึ่งโมเดลธุรกิจนี้จะได้รับการตอบรับทั้งทางตรงโดยการสนับสนุนจากทางภาครัฐ และทางอ้อมจากความตื่นตัวของผู้บริโภคเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

หากภาคธุรกิจต้องการสร้างโอกาสในการเติบโตและประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องมีการปรับตัวเข้าหาเทรนด์ใหม่ ๆ เสมอ ซึ่งเป็นความท้าทายที่ผู้ประกอบการต้องตระหนัก และปรับเปลี่ยนการผลิตสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับ 6 เมกะเทรนด์ที่กล่าวมาเพื่อสร้างความเติบโตทางธุรกิจไปพร้อมกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย