"ภาษีคาร์บอน" เทรนด์โลกที่ผู้ประกอบการต้องรู้

"ภาษีคาร์บอน" เทรนด์โลกที่ผู้ประกอบการต้องรู้

            ก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้โลกเกิดสภาวะเรือนกระจกและนำไปสู่ภาวะโลกร้อน จนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก (Climate Change) หลายประเทศในโลกหันมาให้ความสำคัญกับการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมไปถึงการออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือมาตรการทางภาษี  

            ภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) เป็นค่าธรรมเนียมหรือภาษีที่รัฐบาลเรียกเก็บจากการผลิต การจำหน่าย หรือใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือถ่านหิน ซึ่งเมื่อเผาไหม้แล้วจะทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซต์ ตามหลักก็คือถ้ามีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์ออกมามากก็ต้องจ่ายภาษีมาก ซึ่งในปัจจุบันมีการจัดเก็บภาษีคาร์บอนกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในทวีปยุโรป ปัจจุบันมีการเก็บภาษีคาร์บอนอยู่ใน 29 ประเทศ (24 พ.ย. 2565) 

            ในส่วนของประเทศไทย ทางกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างการศึกษาตัวอย่างการเก็บภาษีคาร์บอนจากประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นชาติเดียวในอาเซียนที่เริ่มต้นเก็บภาษีคาร์บอน โดยทำไว้ 2 รูปแบบ คือ การเก็บภาษีคาร์บอนจากตัวผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของกรมสรรพสามิตโดยตรง อีกรูปแบบ คือ การเก็บภาษีคาร์บอนจากกระบวนการผลิต ซึ่งต้องมีการทำงานร่วมกันกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย 

            การนำภาษีคาร์บอนมาใช้ในประเทศไทยจะเป็นไปในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถปรับตัวได้อย่างยั่งยืน


ความคิดเห็น

สงวนลิขสิทธิ์ 2022 โดย กรมประชาสัมพันธ์
สถิติการเข้าชม : 69,290,575