สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ได้กำหนดมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์กระตุ้นการลงทุน เสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและสังคม มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยกำหนดคุณสมบัติ เงื่อนไข สิทธิและประโยชน์ ไว้ดังนี้
คุณสมบัติของผู้ขอรับการส่งเสริมการลงทุน
1. โครงการที่ดำเนินการอยู่แล้ว ไม่ว่าจะได้รับการส่งเสริมการลงทุนหรือไม่ก็ตาม
กรณีที่ 1 : โครงการ BOI สิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นสุดแล้ว หรือโครงการ BOI ที่ไม่ได้รับสิทธิยกเว้น ภาษีเงินได้นิติบุคคล
กรณีที่ 2 : เป็นโครงการ Non-BOI (ไม่เคยขอรับการส่งเสริม)
(ทั้ง 2 กรณี ต้องเป็นประเภทกิจการที่สำนักงานให้การส่งเสริมในปัจจุบัน)
สิทธิประโยชน์
- ได้รับสิทธิยกเว้น ภาษีเงินได้นิติบุคคล ระยะเวลา 3 ปี วงเงิน 200% ของเงินสนับสนุน
2. โครงการที่ได้รับการส่งเสริมอยู่เดิม ที่สิทธิและประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลยังไม่สิ้นสุด
3. หรือเป็นโครงการใหม่ที่อยู่ในขอบข่ายได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
สิทธิประโยชน์
- ได้รับวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติม 200% ของเงินสนับสนุน
ขอบข่ายกิจกรรมที่สนับสนุน
1. พัฒนาด้านการเกษตรและระบบน้ำ
2. พัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน/OTOP
3. พัฒนาด้านการท่องเที่ยวชุมชน
4. พัฒนาด้านการศึกษา สาธารณสุข และสิ่งแวดล้อมในชุมชน
เงื่อนไขการสนับสนุน
1. ต้องมีเงินลงทุนขั้นต่ำในโครงการเพื่อใช้ในการสนับสนุนองค์กรท้องถิ่น ไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท
2. ต้องให้เงินสนับสนุนองค์กรท้องถิ่นแต่ละรายไม่น้อยกว่า 5 แสนบาท ตัวอย่างเช่น ค่าก่อสร้างโรงงาน ค่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ ค่าฝึกอบรม รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
3. สามารถสนับสนุนท้องถิ่นโดยตรง เช่น สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษา/สถานพยาบาลของรัฐในชุมชน หรือ ดำเนินการผ่านสถาบันการศึกษา/สถาบันวิจัยของรัฐที่ร่วมมือกับองค์กรท้องถิ่น
4. ต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 3 ปี นับจากวันออกบัตรส่งเสริม