ไม่เฉพาะประเทศไทยที่ก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ แต่ทั่วโลกก็กำลังเผชิญกับสังคมผู้สูงอายุเช่นกัน ซึ่งโดยประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุตั้งแต่ปี 2548 และเป็นสังคมสูงอายุสมบูณณ์แบบในปี 2565 จึงทำให้กิจการเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับผู้ที่ต้องการขอทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ประเภทกิจการการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง จะต้องเข้าหลักเกณฑ์ ซึ่งมีรายละเอียดตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ได้ระบุในมาตรา 22 ไว้ว่า ผู้ใดประสงค์จะปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพให้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียน เป็นผู้ให้บริการต่อผู้อนุญาต ซึ่งในการยื่นคำขอขึ้นทะเบียน ต้องเป็นตามที่ระบุในกฎกระทรวง การขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2560 ดังนั้นผู้ที่จะปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 เท่านั้น
นอกจากนี้ ผู้ยื่นคำขอต้องจบหลักสูตรบริการเพื่อสุขภาพที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพให้การรับรอง มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ดังนี้
- มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
- ได้รับวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพที่ได้รับการรับรองจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
- ต้องไม่เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
- ไม่เป็นผู้เจ็บป่วยด้วยโรคติดต่ออันเป็นที่รังเกียจแก่สังคม โรคพิษสุราเรื้อรัง หรือติดยาเสพติดให้โทษ
คู่มือเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ
ข้อมูล ณ วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2566
ที่มา : สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล
เบอร์ติดต่อ : 0 2612 6060