อินโดนีเซีย รับจดทะเบียน GI “ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง-ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้” การันตีคุณภาพสินค้าไทย

     ถือเป็นความภาคภูมิใจในสินค้าจากประเทศไทย ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลมากขึ้น โดยเฉพาะสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ซึ่งเป็นสินค้าคุณภาพ มีเอกลักษณ์เฉพาะจากแต่ละชุมชน

     ข้าวไทย 2 รายการ ได้แก่ ข้าวสังข์หยด จากจังหวัดพัทลุง และข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนจากสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ต่อจากสินค้าผ้าไหมยกดอกลำพูน ที่ได้รับรองขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI ในอินโดนีเซีย เมื่อปี 2559  ช่วยตอกย้ำคุณภาพข้าวไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และจะช่วยขยายตลาดการส่งออกข้าวของไทยเข้าสู่ตลาดอินโดนีเซียได้ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นการช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรท้องถิ่นที่เพาะปลูกข้าวทั้ง 2 ชนิด ได้เพิ่มขึ้น

     ข้าวสังข์หยด จากเมืองพัทลุง มีลักษณะเด่น คือ เมล็ดข้าวเรียวเล็ก อ่อนนุ่ม และมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ข้าวกล้องมีสีแดง จนถึงแดงเข้ม ข้าวสารมีสีขาวปนแดง หรือสีชมพู ในแต่ละปีมีปริมาณการผลิตมากกว่า 8,000 ตัน สร้างรายได้ให้เกษตรกรในท้องถิ่นกว่า 104 ล้านบาท 

     ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ มีลักษณะเด่น คือ เมล็ดข้าวยาวเรียวและไม่มีหางข้าว เมื่อหุงสุกจะมีกลิ่นหอมและนุ่ม ปลูกในพื้นที่ 5 จังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ร้อยเอ็ด สุรินทร์ ศรีสะเกษ มหาสารคาม และยโสธร ในแต่ละปี มีปริมาณการผลิตกว่า 24,500 ตัน สร้างรายได้ให้เกษตรกรในท้องถิ่นกว่า 266 ล้านบาท  

     ที่ผ่านมา กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ผลักดันสินค้า GI ของไทย ให้ได้รับการจดทะเบียนในต่างประเทศแล้ว 8 รายการ ได้แก่ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง กาแฟดอยช้าง กาแฟดอยตุง เส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน ผ้าไหมยกดอกลำพูน มะขามหวานเพชรบูรณ์ และลำไยอบแห้งเนื้อสีทองลำพูน ครอบคลุมกว่า 30 ประเทศ ทั้งสหภาพยุโรป อินเดีย อินโดนีเซีย กัมพูชา และเวียดนาม

เผยแพร่ 19 ม.ค. 2566
ที่มา : กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์
563 ถนนนนทบุรี ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง นนทบุรี  11000  โทร.สายด่วน 1368

ข้อมูลเพิ่มเติม


ความคิดเห็น

สงวนลิขสิทธิ์ 2022 โดย กรมประชาสัมพันธ์
สถิติการเข้าชม : 69,289,035