“น่าน” จังหวัดที่มีเสน่ห์และมนต์ขลังของวัฒนธรรมล้านนา รัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญ ผลักดันให้เป็นเมืองมรดกโลกคู่หลวงพระบาง ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยทางจังหวัดน่านนั้น ได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งในเรื่องของ การทำความเข้าใจกับประชาชนในจังหวัดน่าน การเตรียมในเรื่องของสาธารณูปโภค ไม่ว่าจะเป็นระบบขนส่งมวลชน ทั้งทางบก ทางอากาศ เรียกได้ว่า เดินหน้าเต็มกำลัง!
3 เหตุผล ที่ทำให้จังหวัดน่านถูกเล็งให้เป็นเมืองมรดกโลก
- ความงดงามที่มีความคล้ายคลึงกับหลวงพระบาง
หลายคนเคยกล่าวว่า “เมืองน่าน” มีความคล้ายคลึงกับ “หลวงพระบาง” ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลกที่มีชื่อเสียง การเชื่อมโยงสองเมืองเข้าด้วยกันจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในภูมิภาคนี้
- ความอุดมสมบูรณ์ทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ
น่านมีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์และมีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีวัฒนธรรมและประเพณีที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีหลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญ เช่น เครื่องมือหิน เตาเผาโบราณ และวัดสำคัญต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงถึงความรุ่งเรืองในอดีต
- ความพร้อมของชุมชนและหน่วยงานรัฐ
เกิดจากความร่วมมือร่วมใจกันรักษาความเป็นเมืองไว้ของคนน่าน “น่านเมืองเก่ามีชีวิต” มุ่งเน้นการสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และมรดกทางวัฒนธรรม
นี่จึงเป็นเหตุผล ที่ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ พอได้มาเยือน เมืองน่าน ก็ต้องหลงใหลความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่มีความเรียบง่าย ไม่เร่งรีบ หรือสโลว์ไลฟ์
แนวทางการผลักดัน เชื่อมโยงทั้ง 2 เมืองเข้าด้วยกัน มี 2 โครงการย่อยที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด (สวจ.) น่าน เสนอคณะรัฐมนตรีใช้งบประมาณดำเนินการทั้งหมด 7 ล้านบาท ได้แก่
- โครงการสร้างการรับรู้และความเข้าใจประวัติศาสตร์มรดกทางวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดน่านสู่มรดกโลก ประกอบด้วยการประชุมเพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจแก่หน่วยงานรัฐ เอกชน ชุมชน และประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งจัดทำหนังสือองค์ความรู้และสื่อเผยแพร่ในระบบออนไลน์
- โครงการศึกษาแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเพื่อขับเคลื่อนจังหวัดน่านสู่มรดกโลก
ดำเนินการศึกษาและประเมินคุณค่าแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม รวบรวมองค์ความรู้และจัดทำเอกสารวิชาการ เพื่อเสนอชื่อแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมของน่านให้กับยูเนสโก
การที่น่านถูกเล็งให้เป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมไม่เพียงแต่จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม แต่ยังเป็นการขับเคลื่อน Soft Power ด้านการท่องเที่ยวของไทย ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้แก่ประชาชนและชุมชนในพื้นที่ได้อีกด้วย
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการนี้ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ เว็บไซต์กระทรวงวัฒนธรรม
หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน 1765
ข้อมูลเพิ่มเติม: สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
Link: www.thaigov.go.th