เปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ กับ 11 เส้นทางสายธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ ระหว่างเดินทางสู่แหล่งท่องเที่ยวฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน ซึ่งมีทิวทัศน์สวยงามตลอดเส้นทาง หากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบการขับรถเที่ยว ตามไปเช็กอินตามบนถนนทางหลวง 11 สายทาง ดังนี้
1.ทางหลวงหมายเลข 4 (ตอนหนองบ้วย – ห้วยทรายใต้) ที่ กม.187+680 ซึ่งกรมทางหลวงโดยแขวงทางหลวงเพชรบุรี ได้ปรับปรุงภูมิทัศน์สองข้างทางให้สดชื่นสบายตา ด้วยพันธุ์ไม้สวยงามระหว่างเดินทางไปสัมผัสน้ำทะเลกลิ่นอายทะเลที่ชะอำและหัวหิน
2. ทางหลวงหมายเลข 3510 (ตอน หนองหญ้าปล้อง – ยางชุม) อยู่ในพื้นที่แขวงทางหลวงเพชรบุรี ซึ่งเป็นเส้นทางที่เดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวแก่งกระจาน โดยไม่ต้องผ่านเข้าตัวเมืองเพชรบุรี ผ่านเข้าสู่อำเภอหนองหญ้าปล้อง ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลากหลายตลอดเส้นทาง เช่น น้ำตกกวางโจว อุทยานเจ้าแม่กวนอิมพันมือ โดยการเดินทางจากอำเภอหนองหญ้าปล้อง ไปยังอำเภอแก่งกระจาน ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร
3.ทางหลวงหมายเลข 4 ซึ่งอยู่ในพื้นที่แขวงทางหลวงระนอง โดยเส้นทางนี้จะพาไปสัมผัสความสดชื่นของน้ำตกปุญญบาล หรือที่เที่ยวสามฤดูแห่งเมืองใต้ ที่ได้ชื่อว่าเป็น “น้ำตกข้างทางที่สวยงามที่สุดของเมืองไทย”เพราะตั้งอยู่ริมทางหลวง 4 (ตอน กระบุรี - หงาว) ที่ กม. 583+443 และเดินทางไปอีกประมาณ 26 กิโลเมตร จะได้สัมผัสกับกลิ่นอายของธรรมชาติ เติมอากาศบริสุทธิ์ให้กับร่างกายที่ ภูเขาหญ้าและอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว (ตอน กระบุรี – หงาว) ที่ กม.609+850 ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดระนอง
4.ทางหลวงหมายเลข 4169 (สายทางรอบเกาะสมุย) ซึ่งเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ อยู่ในพื้นที่แขวงทางหลวงสุราษฎร์ธานีที่ 2 โดยได้ปรับปรุงพื้นที่ และพร้อมอำนวยความสะดวก ปลอดภัยให้กับนักเดินทาง ได้มาสัมผัสเกลียวคลื่น ผืนทราย น้ำทะเลใส ไอแดดอุ่น หาดทรายขาวทอดขนานไปกับทิวต้นมะพร้าวริมชายหาด และยังเชื่อมโยงไปยัง เกาะพะงัน เกาะที่ได้รับขนานนามว่า “เพชรน้ำงาม” กลางทะเลอ่าวไทย และเกาะเต่า เกาะที่มีท้องทะเลสวยงามแห่งอ่าวไทย
5.ทางหลวงหมายเลข 401 (ตอน แยกโคกเคียน - เขาสก ที่ กม.6+700) ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์สึนามิบ้านน้ำเค็ม, พิพิธภัณฑ์สึนามิระหว่างประเทศ, อนุสรณ์สถานสึนามิ, เรือ ต.813 ซึ่งแหล่งเรียนรู้ด้านภัยพิบัติทางทะเล และแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และหากเดินทางจากอำเภอตะกั่วป่าไปประมาณ 22 กิโลเมตร จะเดินทางต่อไปยังจุดเช็กอินสะพานเหล็กบุญสูงจุ ณ ร่องรอยแห่งอดีต ของตะกั่วป่า
6.ทางหลวงหมายเลข 4030 (ตอน ถลาง – หาดราไวย์) เส้นทางนี้ห่างจากตัวเมืองภูเก็ต ประมาณ 19 กิโลเมตร โดยผ่านทางหลวงหมายเลข 4024 จนถึงหน้าหาดราไวย์ แล้วเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4030 จะถึงแหลมพรหมเทพ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดชมอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดอีกแห่งในเมืองไทย ห่างจากแหลมพรหมเทพ เพียง 1.3 กิโลเมตร จะเป็นจุดชมวิวกังหันลม มีหาดยะนุ้ยอยู่ระหว่างกลาง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่ได้ชมทั้งวิวกังหันลมวิวพระอาทิตย์ตกดิน ที่สวยงามไม่แพ้กับแหลมพรหมเทพ มองเห็นวิวรอบด้านได้อย่างชัดเจน
7.ทางหลวงหมายเลข 401 (ตอน เขาหัวช้าง – สิชล) เส้นทางสายนี้สามารถเดินทางต่อไปยังหาดในเพลา ชายหาดมีความโค้งยาว มีภูเขาล้อมรอบ ทิวทัศน์โดยรอบเป็นธรรมชาติที่สวยงามมาก
8.ทางหลวงหมายเลข 4015 (ตอน เขาธง - ฉวาง) เส้นทางสายนี้ เป็นเส้นทางสายหลักสำหรับผู้ที่จะเดินทางไปสักการะสรีระสังขารพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ณ วัดธาตุน้อย ซึ่งเป็นเส้นทางที่ต่อเนื่องมาจากทางหลวงหมายเลข 4015 ตอน บ้านตาล - เขาธง
โดยตลอดสองข้างทางมีแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช เช่น หมู่บ้านคีรีวง หมู่บ้านที่อากาศดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งในเมืองไทย และจุดเช็กอินเขาช้างสี แหล่งท่องเที่ยวในอำเภอลานสกา แลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดนครศรีธรรมราช จุดชมวิวเขาเหมน จุดชมวิวเขาธง อุทยานแห่งชาติน้ำตกท่าแพ ถ้ำแก้วสุรกานต์ น้ำตกกะโรม บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ณ ศาลาพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ (เขาธง) และ อีกทั้งยังเป็นเส้นทางหลัก ไปยังแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของอำเภอพิปูนและอำเภอฉวาง โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองนครศรีธรรมประมาณ 35 กิโลเมตร
9.ทางหลวงหมายเลข 4047 (ตอน ลำปำ - พัทลุง) เส้นทางนี้สามารถเดินทางไปสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ ที่หาดแสนสุขลำปำ หรือหาดลำปำ ซึ่งเป็นหาดทรายที่มีทิวสนร่มรื่น ริมฝั่งทะเลสาบสงขลา
10.ทางหลวงหมายเลข 408 (ตอน ปากระวะ - สทิงพระ) เป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวอุทยานนกน้ำคูขุด หรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลสาบสงขลา ซึ่งมีบรรยากาศที่ดีเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ และอีกด้านเป็นภูเขาเล็ก ๆ เหมาะแก่การนั่งดูนกริมทะเล และเดินทางออกไปอีกประมาณ 46 กิโลเมตรจะเชื่อมต่อกับทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง
11.ทางหลวงหมายเลข 4115 (ตอน สุคิริน - กรือซอ) อยู่ในพื้นที่แขวงทางหลวงนราธิวาส โดยเส้นทางสายนี้สามารถเดินทางไปยังพระตำหนักสุคิริน พร้อมสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ที่ผานับดาว มองเห็นอำเภอสุคิรินและเทือกเขาบูโบ ได้อย่างชัดเจน พร้อมชวนชมดวงดาวบนท้องฟ้าและทางช้างเผือก ในเวลากลางคืน
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง
แหล่งที่มา : กรมทางหลวง
เลขที่ 2/486 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
เบอร์ติดต่อ : 0 2354 6668